เลือกพรมอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง

เพราะ “บ้าน” นับเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา ที่เราจะใช้พักผ่อนหย่อนใจ ภายในตัวบ้านจะถูกแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ ตามการใช้สอย อาทิ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอน และห้องน้ำ เป็นต้น ซึ่งบางบ้านอาจเพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้านด้วยการเลือกใช้ “พรม” ซึ่งการเลือกใช้พรมในแต่ละห้อง จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ไปดูกัน

ห้องนี้ควรเลือกพรมแบบไหน?

การเลือกพรมให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละห้องนั้นไม่ยากอย่างที่หลายคนกังวล ต้องเลือกอย่างไร ไปเริ่มห้องแรกกันเลย

1.ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น

จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นห้องที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้าน พร้อมทั้งยังเป็นห้องที่คนในครอบครัวจะใช้เวลาในการพักผ่อนกับห้องนี้มากที่สุดก็ว่าได้ ดังนั้น ถ้าสไตล์การออกแบบของห้องเป็นแนวโมเดิร์น การเลือกพรมควรเป็นพรมที่มีลักษณะที่ดูอบอุ่น ขนฟู หนานุ่ม ผืนใหญ่พอประมาณ แต่หากสไตล์ของห้องเป็นแนวคลาสสิกหรือแนวโอเรียนทัล พรมที่ใช้ควรเป็นพรมขนสั้น จะดูเข้ากันมากกว่า

2.ห้องรับประทานอาหาร

ห้องนี้จะเป็นห้องที่เลอะเทอะมาก เพราะเวลาที่เรารับประทานอาหารนั้น คงจะต้องมีเศษอาหารกระเด็นตกลงบนพื้นกันทุกวัน หรืออาจมีน้ำหกเลอะในบางวัน การเลือกพรมสำหรับห้องนี้ ควรเป็นพรมขนสั้น ง่ายต่อการทำความสะอาด

3.ห้องนอน

เป็นห้องที่เราต้องใช้พักผ่อน เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ในร่างกาย พรมที่ใช้ควรเลือกเป็นลักษณะขนสั้น และหากเป็นห้องนอนของเด็ก ๆ สีของพรมสามารถเลือกแบบสีสันสดใสได้เลย เพราะเป็นการกระตุ้นการเคลื่อนไหวและจินตนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี

4.ห้องน้ำ

ห้องน้ำก็ใช้พรมได้ด้วยหรอ? ใช้รองตรงฐานชักโครก เพื่อรองรับเท้าเวลานั่งทำภารกิจ แถมยังให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายเท้าอีกด้วย ลักษณะขนของพรมควรเป็นแบบขนสั้น ซึ่งจะดูแลได้ง่ายกว่าขนฟู

5.ห้องครัว

ห๊ะ! ห้องครัวก็ใช้พรม? ใช่แล้ว แต่พรมที่ใช้ต้องเป็นพรมไร้ขน เพราะแน่นอน ขึ้นชื่อว่าห้องครัว โดยเฉพาะหากเป็นครัวไทยที่มีส่วนประกอบมากมาย อาจทำให้พรมเลอะได้ง่าย และหากเลือกเป็นพรมขนสั้น จะยิ่งทำให้ดูแลยากถึงยากมาก

จริง ๆ แล้วการเลือกพรมมีเทคนิคที่ง่าย ๆ เพียงนิดเดียว โดยเริ่มพิจารณาในเรื่องของการใช้สอยเป็นหลัก (Function) ห้องไหนใช้ประโยชน์ในด้านใด แล้วค่อยมาตัดสินใจเลือกว่าจะเป็นพรมขนยาว พรมขนสั้น หรือพรมไร้ขน จากนั้นมาดูเรื่องโทนสี โดยเลือกให้เข้ากับห้องนั้น ๆ รวมไปถึงลวดลาย (Design) ที่เหมาะสมไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับสไตล์ของบ้านด้วยว่าเป็นสไตล์ไหน อาทิ โมเดิร์น คลาสสิก เรอเนสซองซ์ โอเรียนทัล หรือลอฟท์ เป็นต้น เพียงเท่านี้ ห้องต่าง ๆ ภายในตัวบ้านก็จะดูดีมีสไตล์ขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าเจ้าของบ้านต้องตกหลุมรักบ้านตัวเองอย่างแน่นอน

สร้างความ “โรแมนติก” ให้กับบ้าน ใครว่ายาก

เมื่อพูดถึงคำว่า “บ้าน” ด้วยรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมภายนอกก็มีให้เราได้เลือก ได้สร้างกันหลายรูปแบบ หลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นแนวโมเดิร์น แนวคลาสสิก แนวโอเรียนทัล ฯลฯ หนำซ้ำยังมีเรื่องของสไตล์การตกแต่งภายในอีก ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ควรจะสอดคล้องกับตัวอาคารภายนอก แต่การที่จะทำให้บ้านน่าอยู่ บ้านดูอบอุ่น หรือรู้สึกได้ถึงความโรแมนติกแล้วล่ะก็ เพียงแค่เพิ่ม “โคมไฟ” เข้าไปให้ถูกที่ถูกทาง แค่นี้ก็ทำให้เจ้าของบ้านและแขกผู้มาเยือนตกหลุมรักบ้านเราได้ไม่ยาก

วางแผนการติดตั้งและเลือก “โคมไฟ” ให้เหมาะสม

วัตถุประสงค์ของการใช้ “โคมไฟ” นั้นมีได้หลายอย่าง อาทิ ใช้เพื่อเน้นในจุดนั้น ๆ  เวลาที่เปิดไฟ ใช้เพื่อตกแต่งตัวอาคารหรือภายในห้อง แต่สำหรับบางคน เน้นการใช้สอยโคมไฟแบบเป็นแสงรองเลยก็มี คือ เรียกได้ว่าถ้าเวลาพลบค่ำหรือเวลาจะเข้านอนก็จะใช้ไฟจากโคมไฟเป็นหลัก เพื่อสร้างบรรยากาศในบ้านแทน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การวางแผนในการติดตั้งโคมไฟ เป็นเรื่องสำคัญ หากติดตั้งได้ถูกที่ถูกทางแล้วล่ะก็ จะทำให้บ้านน่าอยู่ และดูอบอุ่นมากทีเดียว แต่หากไม่ได้มีการคิดวางแผนล่วงหน้า เกิดการติดตั้งผิดที่ผิดทาง เรียกว่าปวดหัว คิดจนตัวตายเลยทีเดียว เพราะต้องแก้กันยาว ทั้งรื้อและทั้งติดตั้งใหม่ เดินสายไฟใหม่ ที่สำคัญ เสียเงินค่าจ้างใหม่ แค่คิดก็เหงื่อตกแล้ว

การเลือก “โคมไฟ” ให้เหมาะกับแต่ละส่วนของบ้านนั้นควรคำนึงเรื่องประโยชน์การใช้สอยให้สูงสุด เช่น โคมไฟสำหรับห้องนอน ควรเลือกไฟที่ส่องเน้นเป็นจุด เช่น เน้นเฉพาะหัวเตียง สำหรับผู้ที่ชอบอ่านหนังสือก่อนนอน หรือเฉพาะโต๊ะทำงานในห้องเดียวกัน ไม่เลือกแบบที่ส่องสว่างทั่วห้อง สำหรับห้องครัว ควรเน้นแสงและเลือกมุมที่เห็นแสงได้ชัดเจน หรือแม้แต่ห้องรับแขก ที่ใช้รับรองแขกผู้มาเยือนและห้องนี้ดูจะเป็นห้องที่เจ้าของบ้านจะใช้เวลามากที่สุดในแต่ละวัน การเลือกใช้ไฟควรเลือกติดตั้งในจุดที่ไม่ย้อนแย้งกับสายตา เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญให้แล้ว ยังทำให้อรรถรสในการพักผ่อนดูทีวี หรือซีรี่ย์สุดโปรดต้องเสียไปอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังจะตกแต่งบ้าน ต้องการเพิ่มความโรแมนติกให้กับทั้งบ้าน และผู้อยู่อาศัย ตลอดจนสร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนแล้วล่ะก็ หากยังคิดไม่ออกว่าจะเพิ่มเติมส่วนไหนดี ลองมาพิจารณาเรื่องของ “โคมไฟ” กันดู เพราะนอกจากตำแหน่งในการติดตั้งที่แล้ว  ยังมีในเรื่องของรูปทรงและการออกแบบที่หลากหลาย ซึ่งมีผลต่อทิศทางของแสง ลองเลือกให้เข้ากับตัวบ้านและห้องนั้น ๆ  ที่สำคัญ อย่าลืมวางแผนให้ดีก่อนติดตั้ง รับรองว่าบ้านหลังนี้ “เจอะอย่างนี้ ใครไม่รักก็…”

เติมเสน่ห์ให้บ้านสวย ด้วยหลอดไฟเอดิสัน สำหรับการตกแต่งบ้าน

                ถ้าพูดถึงการตกแต่งบ้านให้ดูสวยงาม สะดุดตา เป็นที่น่าอยู่อาศัยแล้วนั้น การเลือกใช้หลอดไฟเป็นตัวชูโรงในการตกแต่งบ้าน ก็ถือเป็นการกำหนดแนวทางในการแต่งบ้านได้มากทีเดียว คงจะพอนึกกันได้ถึงบ้านที่ใช้โคมไฟแชนเดอเรียหรือโคมไฟระย้าดวงใหญ่ ติดตั้งไว้ตระหง่านอยู่กลางบ้าน นั่นก็บ่งอกถึงสไตล์การตกแต่งบ้านที่ชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการประยุกต์รูปแบบของหลอดไฟมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นเพราะการตกแต่งบ้านมีหลากหลายสไตล์มากขึ้น การผลิตหลอดไฟรูปทรงแปลกใหม่จึงจำเป็นเพื่อรองรับรูปแบบของบ้านแต่ละแบบนั่นเอง

หลอดไฟเอดิสันคืออะไร?

                หลอดไฟเอดิสัน คือหลอดไฟชนิดไส้ที่มีเส้นขดลวดมากเป็นพิเศษอยู่ภายในหลอดไฟ ซึ่งตัวหลอดไฟมีหลายรูปทรงให้เลือกสรร จุดเด่นของหลอดไฟเอดิสันคือ มีแสงสว่างน้อยหากเทียงปริมาณวัตต์ (watt) ที่เท่ากันกับหลอดไฟชนิดอื่น ๆ ทำให้หลอดไฟเอดิสันดูซอฟท์ ถนอมสายตากว่าหลอดไฟชนิดอื่น ๆ

ตกแต่งบ้านได้อย่างลงตัว ด้วยหลอดไฟเอดิสัน

คุณสามารถใช้หลอดไฟเอดิสันมาตกแต่งบ้านที่หลากหลายสไตล์ได้ ไม่ใช่เฉพาะบ้านสไตล์รูปแบบลอฟท์เท่านั้น ด้วยลักษณะเฉพาะของหลอดไฟเอดิสันที่มีแสงสว่างค่อนข้างน้อย อีกทั้งหลอดไฟเอดิสันยังส่องสว่างออกมาเป็นสีส้ม จึงชวนให้น่ามอง แสงไฟไม่แยงตา ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความอบอุ่น ละมุน ด้วยแสงไฟสีส้มนั่นเอง จึงทำให้หลอดไฟเอดิสันสามารถนำมาตกแต่งได้กับบ้านหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นวินเทจ (vintage) โมเดิร์น (modern) คลาสสิค (classic) คอนเทมโพรารี่ (contemporary) หรือแม้แต่ในสไตล์อื่น ๆ ที่สามารถผสมผสานได้อย่างลงตัว

หลอดไฟเอดิสันตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านของคุณ

เพียงแค่คุณเลือกรูปทรงของหลอดไฟเอดิสันให้เหมาะสมกับสไตล์บ้านแสนรักของคุณเท่านั้น เสน่ห์อันชวนมองบ้านอันน่าอยู่อาศัยก็จะมีมาทันที เนื่องจากในปัจจุบันการออกแบบรูปทรงของหลอดไฟเอดิสันมีอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบหลอดไส้ หรือรูปทรงลักษณะต่าง ๆ ที่มีมาอย่างสร้างสรรค์ หากเลือกหลอดไฟเอดิสันมาปรับให้เหมาะกับรูปแบบบ้านของคุณแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านรูปแบบใดก็เติมเต็มไปด้วยเสน่ห์จากหลอดไฟเอดิสันได้ไม่เพียงเฉพาะบ้านสไตล์ลอฟท์เท่านั้น ด้วยแสงที่ส่องออกมาของหลอดไฟเอดิสัน อันมีสีส้มละมุนตากับกลิ่นไอแบบโบราณ จึงทำให้สัมผัสได้ถึงแสงสีอันอบอุ่นของหลอดไฟ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายอารมณ์ หลอดไฟเอดิสันจึงสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านหลังสวยของคุณให้สวยยิ่งขึ้นได้

หลอดไฟเอดิสันจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่คิดจะตกแต่งบ้านให้ดูมีลูกเล่น สะดุดตา ให้บ้านเป็นยิ่งกว่าบ้านที่อยู่อาศัย แต่บ้านอาจเป็นทั้งที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสถานที่สังสรรค์ หรือบ้านอาจเป็นสปาสำหรับคุณผู้หญิงเลยทีเดียวก็ได้  หากยังไม่รู้จะเริ่มต้นตกแต่งบ้านจากตรงไหน ก็อาจนึกถึงการเลือกหลอดไฟสวย ๆ ไว้ประดับตกแต่งบ้านก็คงเข้าที